ขนลุก! เปิดคำทำนาย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ชะตาบ้านเมือง สมัย ร.10 หมู่มารพ่ายบารมี

May be an image of ‎text that says '‎เปิดคำทำนาย ชะตาบ้านเมือง สมัย ؟ 10‎'‎

เปิดคำทำนายหลวงพ่อฤาษีลิงดำในสมัยรัชกาลที่10ชะตาบ้านเมืองหมู่มารพ่ายบารมีในสมัยที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำยังมีชีวิตอยู่ได้มีการรวบรวมคำเทศนาของหลวงพ่อไว้เป็นหนังสือชื่อฤาษีทัศนาจรซึ่งได้จัดพิมพ์ออกมาหลายเล่มหลายตอนโดยในเล่มที่1ตอนเทวดาชวนขุดทองได้มีการคำทำนายซอดแทรกไว้และมีการทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในรัชกาลที่10ว่าจะมีผู้ใดมาขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่10และมีเหตุการณ์ใดมีเหตุการณ์ใดบ้างดังเนื้อหามีข้อความได้

บันทึกไว้ดังนี้เมื่อแผ่นดินสะเทือนแผ่นดินสั่นเกิดขึ้นดร.เจ้าปริญญาก็บอกว่าเป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติบ้างแต่ทว่าเจ้าลิงนี่สิฤาษีลิงดำหัวหน้าทัศนาจรมันไม่ว่าอย่างนั้นพอแผ่นดินสะเทือนก็กำหนดจิตคิดว่านี่มันเรื่องอะไรพอมีความดำริเท่านั้นก็ปรากฏว่าบรรดาปิยสหายคราวนี้ไม่ใช่หมาแล้วกลายเป็นผีมีศักดิ์ศรีใหญ่แต่งตัวสีแดงพืชไปหมดประมาณ70-80คนแล้วก็ประมาณสีเขียวสีดำอีกหลายร้อยคนเห็นบริเวณนั้นเกื่อนก่นไปหมดจึงถามว่า

นี่พ่อเทวดาแกมาทำอะไรกันอยู่ที่นี่และทำไมแผ่นดินมันถึงสั่นสะเทือนเขาก็ชี้ไปที่ท่านเจ้าพระญาโกสาป่องคราวนี้การไปคราวนี้ท่านเจ้าพระยาโกสาป่องน้องชายเจ้าพระยาโกสาปานท่านไปด้วยความจริงชื่อนี้สมมติขึ้นมาอย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงๆล้อกันและเจ้าพระยาโกสาป่องเป็นใครก็อย่าคิดอย่าถามถามก็ไม่บอกแกก็เลยบอกว่าเจ้าพระยาโกสาป่องมันคิดจะขุดทรัพย์มันคิดว่าที่นี่มีทรัพย์มากมันอยากจะได้ทรัพยใต้แผ่นดินในเมื่อคิดอย่างนั้นก็เลยทำให้มันรู้

ว่ามีจริงฤาษีลิงดำก็เลยถามเขาว่ามีมากมยเขาบอกว่าเฉพาะทองคำประมาณ15ตันเห็นจะได้แล้วยังมีแก้วที่มีค่ามากทีนี้ถามเขาว่ามันอยู่ลึกมั้ยจะขุดได้มั้ยแกก็เลยบอกขุดไม่ยากหรอกมันไม่ลึกเท่าไหร่ประมาณ1กลเท่านั้นก็ถึงก็เสร็จก็เลยบอกว่านี่แกไม่น่าจะบอกอย่างนี้นี่เป็นของที่เกินวิสัยที่คนจะขุดได้ทำไมถึงบอกอย่างนั้นเขาก็หัวเราะยังได้ถามว่าทรัพยากรทั้งหลายเหล่านี้จะปรากฏเป็นผลดีแก่ประเทศชาติในสมัยไหนเขาก็เลยบอกว่า

อานุภาพของทรัพยากรทั้งหลายจะปรากฏขึ้นในตอนกลางสมัยรัชกาลที่10แห่งกรุงรัตนโกสินทร์สมัยนั้นจะปรากฏว่าประเทศจะมีความมั่งคั่งสมบูรณ์เป็นกรณีพิเศษทุกสิ่งทุกอย่างจะพร้อมมูลบริบูรณ์จะกลายเป็นประเทศมหาเศรษฐีเขตหนึ่งอย่าว่าแต่เฉพาะในเอเชียเลยแม้แต่ยุโรปก็ต้องเอาใจทั้งนี้เพราะอะไรเพราะว่าอำนาจบุญบารมีของกษัตริย์ทั้งสองพระองค์คือกษัตริย์รัชกาลที่9เป็นผู้มีบุญบารมีใหญ่ปูพื้นฐานเอาไว้แล้วก็พระโอรสาธิราชที่จะเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปก็เป็นพระราชา

ที่มีบุญบารมีใหญ่ที่คนทั้งหลายคิดว่าจะทำลายประเทศไทยให้เป็นคอมมิวนิสต์มีจิตหยาบปรารถนาจะให้คนทั้งชาติที่มีความเคารพในพระพุทธศาสนาเป็นทาสของบุคคลกลุ่มเดียวไม่มีความหมายเพราะความหวังตั้งใจของบุคคลทั้งหลายเหล่านี้เขาจะพาตัวเขาพินาศไปเองเพราะอำนาจบุญบารมีของพระมหากษัตริย์ที่เปลี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่มีสมรรถภาพเป็นพิเศษเขาก็ว่าอย่างนั้นก็เลยบอกว่าโมทนาด้วยนะแล้วก็ในฐานะที่ท่านทั้งหลายเป็นเทวดาก็ต้องช่วยกันนะเขาก็เลยบอกว่าช่วยกัน

ก็เลยถามต่อไปว่าการที่ทำแผ่นดินสะเทือนนี่นะเป็นปัจจัยเพราะเจ้าพญาโกสาป่องแกมีความละโมบโลภมากอยากได้ในทรัพย์ในแผ่นดินนั้นใช่มยก็มีท่านหนึ่งบอกว่าไม่ใช่ไอ้เจ้าพญาโกสาป่องนี่มันเป็นเพื่อนกันเคยเป็นเพื่อนร่วมกันมาแต่ว่าตอนนี้ตามันยังไม่ดีแต่ทว่านเขาก็ดีก็คือว่าชอบสร้างตัวเป็นคนสสุจริตไม่ทุจริตโกงเงินโกงทองของรัฐบาลรับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแล้วก็มีจิตประกอบไปด้วยกุศลอย่างนี้จึงแสดงอาการให้ปรากฏ

และอีกประการหนึ่งคนที่มาทั้งหมดนี้เป็นอันว่า99.99%99%จัดว่าเป็นคนที่มีบุญใหญ่มีศักดิ์ศรีใหญ่ก็เลยถามว่าคนที่มีบุญใหญ่มีศักดิ์ศรีใหญ่น่ะมันใหญ่กันตรงไหนเขาก็เลยบอกว่าใหญ่ตรงที่มีความดีน่ะสิเพราะการมาคราวนี้นี่ตั้งใจมานมัสการพระดีที่เรียกกันว่าสุปฏิปันโนและพระทั้งหลายเหล่านั้นคณะเขาเองบารมีพระมหากษัตริย์คนในยุคสมัยใหม่จะไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพระบารมีขององค์พระมหากษัตริย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของพวก

เราที่ได้รับการศึกษาตามแบบตะวันตกมาอย่างช้านานเราจะมีความรู้เรื่องประชาธิปไตยโดยเอาประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นมาตรฐานโดยขาดความรู้ความเข้าใจในพื้นฐานและภูมิหลังของการก่อตั้งประเทศของเขาว่าต่างจากประเทศของเราแทบจะคนละอย่างการที่ประเทศของเรายังมีพระมหากษัตริย์ที่อยู่ในฐานะผู้ทรงความศักดิ์สิทธิ์และเราต่างรู้สึกจงรักภักดีผิดจากประเทศอื่นที่ประชาชนในประเทศนั้นๆจะไม่เกิดความรู้สึกเช่นนี้กับประมุขของเขาก็เพราะพวกเรามีพระ

มหากษัตริย์สืบราชสันติวงศ์มาเป็นเวลาถึง700ปีแล้วการสืบเชื้อสายกษัตริย์หรือเลือดแห่งขัตติยะมีมาเช่นนี้ไม่เคยขาดสายคนไทยทุกคนที่เกิดมาจึงรู้สึกว่าตนเองมีความสุขสงบอยู่ได้ก็เพราะได้อยู่อาศัยอยู่ภายใต้ตายลมแห่งพระบารมีโพธิสมสความรู้สึกที่จงรักภักดีและซาบซึ้งเช่นนี้จะไม่เกิดมีและไม่เป็นที่รู้จักของชนชาติใดที่ไม่มีกษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจความรู้สึกว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นมิ่งขวัญแห่งปวงชนชาวไทยเช่นนี้จะไม่มีใน

ประเทศที่เขาปกครองด้วยระบบอื่นนี่คือความภาคภูมิใจที่เราคนไทยต่างมีอยู่ในใจร่วมกันบางประเทศที่เขาไม่มีพระมหากษัตริย์ก็พยายามรื้อฟื้นกษัตริย์ขึ้นมาใหม่แม้ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ยังมีกลุ่มบุคคลที่พยายามสร้างระบบกษัตริย์ซึ่งบางคนอาจคิดไม่ถึงทั้งนี้ก็เพราะสถาบันกษัตริย์เป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิและความสง่างามที่การปกครองในระบบอื่นไม่อาจมีคำถามว่าเหตุใดพระมหากษัตริย์จึงทรงเปลี่ยมพระบารมีและอยู่ในฐานะที่ควรเทิด

ทูลได้ถึงเพียงนี้เหตุใดทั้งที่พระองค์เป็นมนุษย์เช่นเดียวกันแต่กลับอยู่ในฐานะเป็นคนพิเศษและทรงมีฐานะเหนือทุกคนในประเทศคำถามเหล่านี้จะเกิดมีในใจของคู่คนอยู่มากมายหากเราเอาแต่ความรู้ที่เรียนในโรงเรียนหรือในมหาวิทยาลัยมาวินิจฉัยในเรื่องนี้ฐานความรู้จะไม่เพียงพอเพราะความรู้ทั้งหลายที่เราเรียนจบกันมานี้เป็นความรู้และตำราที่มาจากพื้นฐานความคิดของชาวตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ความรู้ที่ทำให้คนไทยเข้าใจประเทศไทยและ

เข้าใจคนไทยยังมีน้อยเพิ่งจะเริ่มเพิ่งจะเริ่มมีและเริ่มเป็นที่สนใจก็เมื่อไม่นานมานี้เองนอกนั้นเราใช้แนวคิดวิธีการบริหารโดยอาศัยหรือวิ่งตามตะวันตกมาตลอดประเทศไทยจึงเดินมาถึงทางตันในวันนี้สิ่งที่เป็นความจริงก็คือประเทศของเรายังมีพระมหากษัตริย์ดังนั้นการดำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันอันเก่าแก่อันมีมาคู่ชาติไทยมาตั้งแต่เริ่มมีประเทศจึงมีความภาคภูมิใจที่ประเทศใดในโลกไม่มีเหมือนและการจะมีสถาบันกษัตริย์ไปได้นานเพียงใดก็ขึ้นกับพระบารมี

และการทรงทดพิษราชธรรมขององค์พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นมิ่งขวัญของประชาไม่ได้ขึ้นกับว่าเราจะเอาอย่างประเทศใดหรือต้องการความก้าวหน้าความทันสมัยนี่คือหลักใหญ่สำหรับประเทศไทยของเราเราไม่จำเป็นต้องเอาอย่างใครแต่เราจงเป็นตัวของตัวเองพึ่งตนเองและสร้างประเทศด้วยสติปัญญาของตัวเองนั่นแหละประเทศไทยจะรอดพ้นจากวิกฤตทั้งปวงก้าวสู่ยุคใหม่ต่อไปพระมหากษัตริย์ทรงมีพระบารมีเหนือกว่าคนทั่วไปก็เพราะกฎแห่งกรรมที่พระองค์สั่งสม

มาผิดจากคนอื่นที่เกิดมาในยุคนั้นๆหากใครเข้าใจกฎแห่งกรรมจะพูดเรื่องอย่างนี้ง่ายเพราะสามารถอธิบายถึงอำนาจและบุญบารมีที่เกิดมาเพื่ออยู่ในฐานะเหนือคนอื่นซึ่งไม่น่าเป็นไปได้สำหรับพวกเราที่ได้เรียนรู้แต่เรื่องประชาธิปไตยมาแต่เป็นเด็กนักเรียนในพระไตรปิฎกได้มีกล่าวไว้ว่าการได้เกิดมาเป็นกษัตริย์หรือเกิดในราชวงศ์ก็เพราะบุคคลนั้นเคยได้สร้างทานบารมีศีลบารมีปัญญาบารมีที่ยิ่งยุหัสกว่าทุกคนในสมัยที่ตนได้เกิดมาแล้วได้เป็นกษัตริย์

คือเป็นกุศลกรรมที่ทำไม้อย่างยิ่งยวดกว่าไข่ไข่ในบารมีทั้ง10ในอดีตชาติเมื่อมาเกิดในชาตินี้จึงได้เสวยบุญเสวยอำนาจเหนือกว่าคนทั่วไปท่านกล่าวไว้ว่าคนที่จะได้เกิดเป็นกษัตริย์ต้องเคยรักษาศีล8มาอย่างยิ่งยวดในอดีตชาติอานิสงส์แห่งการรักษาอุโบสถ์หรือรักษาศีล8ที่ตนเคยเคยบำเพ็ญไว้เหนือกว่าใครๆหากได้เกิดมาเป็นมนุษย์จะทำให้มีตบะเดชะมีอำนาจเหนือใครในยุคสมัยของตนจนกว่าจะหมดบุญบารมีที่เคยสั่งสมไว้อำนาจบารมีเหล่านั้นก็จะถอยถอยลงหรือสูญ

สิ้นอำนาจวาสนาด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งยกตัวอย่างพอได้เข้าใจง่ายก็คือเปรียบเหมือนบุคคลที่เคยยากจนเขญใจแต่ยึดมั่นในสุจริตสั่งสมกรรมดีสร้างบุญกุศลไว้มิได้ขาดแล้วก็พากเพียรอุตสาหะสร้างอนาคตสร้างฐานะแสวงหาความก้าวหน้าในเวลาต่อมาเขาก็ได้รับเสวยผลแห่งกรรมดีและความพากเพียรของเขาจนกลายเป็นคนร่ำรวยหรือเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ในภายหลังจากที่เคยมีชีวิตอดอยากยากจนก็กลายเป็นอยู่ท่ามกลางความสมอุดมสมบูรณ์และสะดวกสบายเป็นที่เคารพเกรงอก

เกรงใจของคนทั้งหลายเพราะได้เสวยผลแห่งกรรมดีและความขยันหมั่นเพียรที่ตนกระทำบำเพ็ญมาแต่การจะได้เป็นกษัตริย์ไม่ใช่การสร้างความดีเพียงในชาตินี้แต่ต้องเคยสร้างความดีและเคยบำเพ็ญบารมีอย่างยิ่งยวดมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจึงทำให้ไปเกิดในตระกูลที่สูงส่งกว่าคนทั่วไปหรือบางพระองค์แม้เกิดในสามัญชนแต่ก็จะเกิดเหตุการณ์พลิกผันของบ้านเมืองทำให้ตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์จนได้อย่างเช่นสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชพระมหากษัตริย์

ผู้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ของไทยหรือพระเจ้าบุเรงนองของพม่าเป็นต้นนี่ก็เพราะอำนาจแห่งบุญบารมีที่สั่งสมไว้ในอดีตชักนำให้เป็นไปชินแสจึงได้ทำนายพระภิกษุทองด้วงทำนายไว้สมัยบวชเป็นพระภิกษุบิณฑบาตด้วยกันกับพระภิกษุศีลว่าต่อไปภายภาคหน้าจะได้เป็นกษัตริย์ทั้งคู่แล้วก็เป็นจริงทุกอย่างตามคำทำนายด้วยเหตุนี้คนเป็นกษัตริย์จิตใจจึงไม่เหมือนคนสามัญธรรมดาถ้าจะกว้างขวางก็กว้างขวางเหนือใครหากต้องโหดร้ายก็โหดร้ายไม่มีใครเหมือนเมื่อเมตตาก็ทรงมี

เมตตามหาศาลเมื่อถึงคราวกล้าหาญก็เด็ดเดี่ยวกล้าหาญผิดจากมนุษย์ทั่วไปนี่คือน้ำใจของคนที่เกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์การเกิดมาเป็นกษัตริย์เป็นด้วยบุญบารมีที่บุคคลคนนั้นได้บำเพ็ญไว้แล้วมาเสวยผลบุญในชาตินี้จึงไม่เกี่ยวว่าในชาติปัจจุบันนี้จะกระทำกรรมดีหรือชั่วอย่างไรตราบใดที่บุญบุญญาภิสมภารที่ทรงบำเพ็ญไว้ยังค้ำจุนเกื้อหนุนอยู่กษัตริย์พระองค์นั้นย่อมทรงครองบัลลังก์ไปได้ตลอดจนกว่าจะหมดบุญคนที่เกิดเป็นพระมหากษัตริย์ตามกฎแห่งกรรมย่อมถือว่าได้สร้างบุญบารมี

ข้ามภพค้ำชาติมามากมายมากกว่าคนที่เกิดมาเป็นประธานาธิบดีเพราะตำแหน่งประธานาธิบดียังมีวาระกำหนดไว้อยู่ได้ไม่กี่ปีก็ต้องลงจากตำแหน่งหลีกทางให้คนอื่นตามกฎกติกาส่วนการเป็นพระมหากษัตริย์นั้นเสวยอำนาจบารมีไปจนกว่าจะสวรรคตนี่คือผลแห่งการสร้างบุญบารมีที่ที่บำเพ็ญไว้แตกต่างกันการเป็นประธานาธิบดีจึงได้รับการยอมรับนับถือในความรู้ความสามารถจากคนทั่วไปที่เป็นไปตามกฎกติกาแต่จะไม่เกิดบารมีให้ผู้คนรู้สึกโทษทูลจงรักภักดีและยกไว้ในฐานะที่สูง

ส่งเหมือนการเป็นกษัตริย์นี่คือผลจากการบำเพ็ญบารมีศีล8ที่บำเพ็ญอยู่ตลอดตนั้นส่วนคนที่เกิดเป็นประธนาธิบดีก็เคยบำเพ็ญมาเหมือนกันแต่บำเพ็ญศีล8ระยะสั้นๆหรือทำได้ชั่วคราวจึงเสวยตำแหน่งอย่างถูกจำกัดเวลาและคนที่มีความสามารถเท่าเทียมกับตนก็มีอยู่มากมายจึงทำให้ครองตำแหน่งยาวนานไม่ได้ในยุคสมัยและประเทศของตนเพราะคนหนึ่งบำเพ็ญความดีเพียงช่วงใดช่วงหนึ่งจึงเสวยตำแหน่งได้เพียงชั่วคราวอยู่ถาวรไม่ได้ส่วนคนเกิดมาเป็นกษัตริย์นั้น

ท่านเคยบำเพ็ญบารมีมาแต่อดีตอย่างอุกลตยิ่งกว่าใครจนตลอดชีวิตเมื่อเกิดมาจึงทรงอยู่ในฐานะที่อยู่เหนือกว่าใครๆในยุคสมัยนั้นๆที่ตนได้เป็นกษัตริย์ตราบสิ้นชีวิตหรือหมดบารมีสถาบันพระมหากษัตริย์จะหมดไปจากประเทศใดก็เมื่อในยุคนั้นสมัยนั้นไม่มีบุคคลใดที่บำเพ็ญบารมีอย่างยิ่งยวดมาเกิดจนถึงขั้นพอจะดำรงตำแหน่งดำรงฐานะอันสูงส่งถึงขั้นเป็นกษัตริย์ให้คนทั้งประเทศยอมรับในพระบารมีได้แต่หากยังมีบุคคลที่ทรงบุญบารบารมีถึงขั้นนี้อยู่ตราบใดสถาบันกษัตริย์จะยังไม่

มีใครมาทำลายหรือทำให้สูญสลายไปจากประเทศนั้นๆได้นี่คือเหตุผลที่ทำให้พระมหากษัตริย์ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดจึงเกิดเป็นศูนย์รวมจิตใจและอยู่ในฐานะที่สูงส่งที่พิเศษน่าอัศจรรย์เราเรียกสิ่งนี้ว่าพระบารมีประจำองค์ของพระมหากษัตริย์บารมีของพระมหากษัตริย์นี้จึงไม่เหมือนใครทรงเป็นที่ตั้งแห่งความจงรักภักดีและความเทิดทูลนี้ที่ไม่มีตำแหน่งใดในโลกจะเทียบได้หากเราไม่เข้าใจกฎแห่งกรรมที่บุคคลบำเพ็ญมาข้ามภพข้ามชาติเราจะไม่มี

วันเข้าใจความเป็นบุคคลพิเศษที่มีอำนาจเหนือใครในแผ่นดินทุกคนเกิดมาย่อมเป็นไปตามกรรมทั้งที่ตนทำไว้ในอดีตชาติและชาติปัจจุบันหากเราใช้ภูมิปัญญาตามแบบตะวันตกหรือแบบวิทยาศาสตร์อย่างเดียวเราจะพลาดจากความเข้าใจในระบบกรรมของประเทศกรรมของคนในชาติก็ยังมีอะไรอีกมากมายสำหรับโลกและชีวิตที่ลึกลับซับซ้อนยิ่งกว่าการค้นพบอนุภาคพระเจ้าที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกตื่นตื่นเต้นยินดีเพราะนับจากนี้เราอาจพิสูจน์ได้ว่าเหล่าโยคีท่านระลึกชาติได้

อย่างไรเหมือนกับที่เราค้นพบคลื่นโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตได้ในปัจจุบันทั้งที่เมื่อ20ปีก่อนเราต่างคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนจะคุยกันโดยไม่มีสายโทรศัพท์แบบนี้เราจงยอมรับในบุญบารมีของบุคคลอื่นเคารพในคุณคคุณความดีของกันและกันยอมรับในกฎแห่งกรรมที่ทุกคนต้องเสวยชีวิตที่เป็นไปในแต่ละวันที่เราได้เสวยอารมณ์ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้างถ้าพูดเป็นภาษาพระอภิธรรมก็คือการเสวยกุศลวิบากและอกุศลวิบากของตัวเองแต่ละคนนั่นเอง

มีเมตตาและให้อภัยต่อกันสวรรค์จะเกิดขึ้นในหัวใจของเราทันทีจงพากันสร้างสมบุญบารมีบำเพ็ญศีลให้ทานและภาวนาให้มากเข้าไว้เพราะปีหน้าเราจะพบกับความทุกข์ยากลำบากมากกว่าปีนี้ตามกฎแห่งกรรมของคนในชาติที่ทำมาร่วมกันถึงคราวจะส่งผลหากใครรักษาศีลบำเพ็ญบารมีไม่ประมาทสิ่งหลายร้ายๆทั้งหายจะผ่อนหนักเป็นเบาอย่าถือสาความผิดความถูกต่อกันมามากนักแต่จงมีความรักความเมตตาไว้นำหน้าทุกคนต่างมีทุกข์มีน้ำตานองหน้าและแอบร้องไห้

ไม่ให้คนอื่นเห็นด้วยกันทั้งนั้นในท้ายที่สุดแล้วทุกสิ่งย่อมผ่านไปเหมือนทุกเรื่องราวนั่นเองอย่าได้ยึดมั่นถือมั่นต่อสิ่งใดจนเกินไปรักษาคุ้มครองใจด้วยความมีสติรู้สึกตัวอยู่กับกายและใจในขณะนี้ไว้เสมอนั่นแหละคือที่พึ่งอันประเสริฐของเก่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *